10 สิ่งที่ควรเตรียมให้พร้อมก่อนไป ต่างประเทศ
1) พาสปอร์ต (PASSPORT)
สิ่งสำคัญอย่างแรกเลยที่เราต้องมี เวลาจะเดินทางออกนอกประเทศ นั่นก็คือ พาสปอร์ต ซึ่งทุกวันนี้การทำพาสปอร์ตก็ง่ายและสะดวกรวดเร็วมาก ๆ เพราะสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า จองคิวทำพาสปอร์ตได้ทางออนไลน์แล้ว 24 ชั่วโมง ทาง www.passport.in.th ส่วนคนที่มีพาสปอร์ตอยู่แล้วแต่สงสัยว่าอายุพาสปอร์ตจำเป็นต้องถึง 6 เดือนไหม ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ขอบอกว่าการเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ ในความเชื่อเดิม ๆ ว่าต้องมีอายุพาสปอร์ต 6 เดือนจึงจะเดินทางได้นั้น จริง ๆ ไม่ใช่เช่นนั้น
เพราะประเทศปลายทางจะเป็นผู้กำหนดว่าต้องการอายุพาสปอร์ตเท่าไหร่ ซึ่งก็แล้วแต่ประเทศ แต่ทางตรวจคนเข้าเมืองและสายการบินไม่มีข้อห้ามตรงนี้เลย เพราะสายการบินบางสายการบินอาจจะให้เซ็นข้อตกลงว่าจะรับผิดชอบค่าโดยสารเองกรณีที่ต้องส่งกลับ ประเทศที่มักจะต้องการอายุพาสปอร์ต 6 เดือนจะเป็นประเทศแถวบ้านเรานี่แหละ ได้แก่ มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ส่วนประเทศชั้นนำเช่น สหรัฐอเมริกา เกาหลี ญี่ปุ่น ล้วนแต่ต้องการให้มีอายุพาสปอร์ตก่อนที่จะออกจากประเทศเขาก็พอ ด้านฮ่องกง มาเก๊า ทั้งสองที่ก็ต้องการแค่อายุพาสปอร์ตขาเข้าอย่างน้อย 1 เดือนเท่านั้น สรุปแล้วว่าไม่จำเป็นว่าต้องมีอายุพาสปอร์ต 6 เดือนจึงจะเดินทางได้
2) เช็คสภาพอากาศ
เวลาที่เราไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ซึ่งเราไม่คุ้นเคยกับสภาพอากาศ เราจำเป็นต้องศึกษาสภาพอากาศของเมืองและประเทศที่เราจะไปให้ดีก่อน เพื่อเราจะได้เตรียมเครื่องนุ่งห่มหรือเครื่องใช้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ หากเราไปเที่ยวในโซนประเทศที่เราทราบอยู่แล้วว่ามีสภาพอากาศไม่ต่างจากเรามากนัก เราก็ไม่ต้องเตรียมการมากนัก แต่ถ้าเราไปเที่ยวในประเทศโซนอเมริกาหรือยุโรป ที่มีอากาศแตกต่างมากในช่วงฤดูหนาวหรือใบไม้ผลิแตกต่างไปจากบ้านเรามากเราก็ต้องเช็คสภาพอากาศก่อนออกเดินทางสัก 2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมการซื้อของใช้ที่จำเป็น
3) ภาษาการสื่อสาร
เมื่อถึงเวลาต้องไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเพื่อจุดประสงค์ใดก็ตาม อาจจะไปท่องเที่ยวหรือไปเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ การรู้ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อเอาตัวรอดนั้นเป็นสิ่งสำคัญ และประโยคเด็ดที่สามารถช่วยให้คุณเอาตัวรอดเมื่อเวลาต้องสื่อสารกับชาวต่างชาติเมื่ออยู่ต่างประเทศ เริ่มต้นง่าย ๆ ก็คือถามก่อนว่าเขาสามารถพูดหรือสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษบ้างได้หรือไม่ (Do you speak English?) โดยคุณอาจคาดหวังว่าคำตอบที่ได้รับกลับมาว่า “Yes, of course!” หรือ “A little bit” หรือ “Not at all!” ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษจะเป็นภาษากลางที่มีคนใช้กันแพร่หลายในหลายประเทศ แต่ในบางประเทศ คนท้องถิ่นบางคนอาจจะไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เลยก็ได้ และเมื่อเวลาอยู่ต่างประเทศ คุณอาจจะหลงทางหรือต้องการความช่วยเหลือจากชาวท้องถิ่น คุณสามารถขอความช่วยเหลือได้โดยการพูดประโยคง่าย ๆ ว่า (Can you help me?)
4) เงิน
ปัจจัยสำคัญที่สุดของการเดินทางคือเงิน และการไปเที่ยวต่างประเทศก็จำเป็นต้องแลกเงินไว้ใช้จ่าย ฉะนั้นเราควรดูด้วยว่าประเทศปลายทางที่เราจะไปนั้นคือที่ไหน เงินบาทไม่ใช่ทุกประเทศจะยอมรับ และในหลายประเทศแม้ว่ายอมรับแลก แต่ก็อาจได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่ดี เช่น ถ้าไปกลุ่มประเทศละติน หรือยุโรปตะวันออก การเอาเงินบาทไปแลกปลายทางมีความเสี่ยงที่จะหาแลกยาก หรืออัตราแย่มาก ถือเงินสหรัฐ เงินยูโรไปสะดวกกว่า รับแลกทุกที่ ซึ่งกรณีไม่ใช่เรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเดียว ประเด็นคือหาแลกได้ หรือไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ถ้าไปในประเทศที่นักท่องเที่ยวไทยนิยมไป เช่น สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง เขารับแลกเงินไทยแน่นอน ดังนั้นก็ควรเตรียมตัวเรื่องเงินไว้ให้ดีด้วยล่ะ
5) ข้อมูลการท่องเที่ยว แผนที่ขนส่งมวลชน
ในบางประเทศที่มีระบบขนส่งมวลชนดีเลิศ จะช่วยกำหนดเวลาในการเดินทางระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ค่อนข้างดี แต่ด้วยความที่สะดวกมาก ๆ ระบบการซื้อตั๋วที่เราไม่คุ้นเคยหรือเส้นทางที่มีมากมายหลายสายก็อาจทำให้สับสนได้เช่นกัน จึงควรวางแผนเส้นทางล่วงหน้าอย่างละเอียดเพื่อจะได้ไม่หลงทางให้เสียเวลา เสียอารมณ์ และการไปเที่ยวจะสนุกมากขึ้นเมื่อเรารู้ว่าที่นั่นมีอะไรเจ๋ง ๆ ให้ดูบ้างในช่วงที่จะไป เช่น มีงานเทศกาลประจำปี นิทรรศการพิเศษ มีโปรโมชั่นถูกสุด ๆ ช่วงวันหยุด มีแหล่งท่องเที่ยวหรือร้านอาหารน่าสนใจอยู่ใกล้ ๆ ในระยะเดินถึงหรือเปล่า บางสถานที่มีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ติด ๆ กันเป็นโซน เรียกว่าไปที่เดียวได้ทั้งความหลากหลายและคุณภาพ ลองเจียดเวลามาหาข้อมูลสักนิดจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจในความพลาดทีหลัง
6) อาหารการกิน
หลายคนที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศ และพอมีโอกาสได้ไป ก็อยากจะลิ้มลองกับอาหารขึ้นชื่อของเมืองและประเทศนั้นที่ได้เดินทางไปแน่นอน อย่างเช่น ญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องปลาดิบ ซาซิมิ เหลือเกินนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นก็จะเตรียมข้อมูลแล้วว่าต้องไปกินที่ร้านไหน ย่านไหนอร่อยที่สุด ส่วนเกาหลีที่ขึ้นชื่อก็คงจะเป็นซันนักจี (ปลาหมึกสด) ที่ต้องลองสักครั้งในชีวิตถ้าได้ไปที่เกาหลีใต้ และแอบกระซิบว่าย่านฮงแดเด็ดที่สุดเลยล่ะกับเมนูนี้
7) เสื้อผ้า
การเลือกเสื้อผ้าไปใส่ในต่างประเทศ ก็ต้องดูสภาพอากาศด้วยนะ หากไปช่วงที่อากาศร้อน เสื้อผ้าที่เราใส่เป็นประจำในเมืองไทยก็สามารถนำไปประยุกต์ใส่ได้ แต่ถ้าไปในหน้าฝนล่ะก็เตรียมซื้อร่มได้เลย ส่วนหน้าหนาวก็จะจัดเต็มได้หน่อย ทั้งเสื้อโค้ท ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้า เสื้อไหมพรม สารพัดแฟชั่นที่จะเตรียมไปแต่งกันที่ต่างประเทศ เรียกได้ว่าจัดเต็มแบบไม่ต้องแคร์ใครได้เลยล่ะ ข้อแนะนำก็คือดูด้วยนะว่าเราเดินทางไปกี่วัน จะไปที่ไหนบ้าง ก็ขอให้เตรียมไปให้เหมาะพอดี แต่ใช่ว่าจะจัดเต็มก็ขนไปซะจนเป็นภาระนะ อิอิ
8) ที่พัก
แน่นอนว่าการที่เราจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ในกรณีที่ไปเที่ยวโดยที่ไม่ได้ไปเยี่ยมญาติพี่น้อง หรือว่ามีใครที่รู้จักอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว เราก็ต้องจองที่พักไว้ และในการจองที่พักในต่างประเทศทุกวันนี้ก็สะดวกมาก ๆ เพราะมีหลากหลายเว็บไซต์ หลากหลายโรงแรมให้เลือกจองเต็มไปหมด ที่พักราคาถูกก็มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.traveloka.com ส่วนใครที่อยากจะรู้ลึกไปมากกว่าราคาที่พัก ก็สามารถหาดูรูปวิวที่พักต่าง ๆ ก่อนได้ ตามที่คนอื่นไปมาแล้ว แล้วเขามาแนะนำบอกต่อ ที่สำคัญก็ขอให้เลือกดูด้วยนะว่าที่พักปลอดภัยไหม อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า เดินทางสะดวกหรือไม่
9) ซิมการ์ดและอินเทอร์เน็ต
เมื่อไปต่างประเทศ สิ่งที่จะขาดไม่ได้อีกอย่างก็คือซิมการ์ดโทรศัพท์ไว้ติดต่อสื่อสาร และอินเทอร์เน็ตเอาไว้อัพรูปชิค ๆ ลงในโซเชียล มาเที่ยวต่างประเทศทั้งที ก็อย่าลืมเก็บภาพบรรยากาศมาเยอะ ๆ และอย่าลืมถ่ายภาพตัวเองคู่กับสถานที่ต่าง ๆ ที่เดินทางไปด้วยนะ
10) เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม
เหนือสิ่งอื่นใดสำคัญที่สุดก็คือร่างกายของเราว่าพร้อมแล้วหรือยัง เพราะถ้าหากเราป่วย หรือไม่สบาย ก็จะทำให้การเดินไปเที่ยวต่างประเทศของเรา ไม่สนุกเอาได้ แต่ถ้าร่างกายเราไม่ไหวจริง ๆ การไปเที่ยวต่างประเทศก็คงไม่สำคัญเท่ากับร่างกายแล้ว ฉะนั้นระหว่างที่จะเดินทางไปเที่ยวก็ควรดูแลรักษาสุขภาพให้ดีด้วยนะทุกคน